ดื่มเหล้า แค่ไหนจึงเรียกว่า “มีอาการติดเหล้า”

          การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเครื่องดื่มที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะดื่มกันไม่มากก็น้อย บางคนก็ดื่มตามโอกาสหรืองานต่าง ๆ บางคนก็ดื่มทุกวันเป็นประจำ ซึ่งแน่นอนว่าเครื่องดื่มนี้แม้จะไม่ได้มีผลในเชิงบวกต่อร่างกายมากนักแต่หลายคนก็เลือกให้เป็นเครื่องดื่มคลายเครียด เพิ่มความสนุกสนานในวงปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีผลในเชิงลบมากกว่าเชิงบวก ทั้งกับทางร่างกาย รวมถึงพฤติกรรมการแสดงออกและระบบความคิด แต่กระนั้นก็ตาม การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำก็อาจเข้าข่ายภาวะ “โรคติดเหล้า” อาจมีความเสี่ยงเกิดอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และมีอาการทางจิตได้ จากงานวิจัยยังยืนยันด้วยว่า ผู้ที่เข้าข่ายเป็นโรคติดเหล้า มีโอกาสป่วยเป็นโรคทางจิตเวชสูงกว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้ดื่ม เช่น มีโอกาสป่วยเป็นโรคจิตเภท ( Schizophrenia) สูงกว่า 3.8 เท่าตัว มีโอกาสป่วยโรคซึมเศร้า ( Depression ) 3.9 เท่าตัว มีโอกาสป่วยด้วยโรคอารมณ์แปรปรวน 2 ขั้ว หรือโรคไบโพลาร์ (Bipolar) 6.3 เท่าตัว และมีโอกาสป่วยเป็นโรควิตกกังวลสูงกว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้ดื่ม 4.6 เท่าตัว ซึ่งเมื่อเป็นแล้วยากที่จะบำบัดรักษาให้หายขาด แม้ว่าจะหยุดดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็ตาม

ลักษณะอาการที่บ่งบอกของอาการติดสุรา สามารถสังเกตได้ดังนี้

ต้องดื่มมากขึ้นถึงจะได้ฤทธิ์เท่าเดิม

อาการลักษณะนี้เชื่อว่าหลายคนคงมองข้ามหรือไม่คิดว่านี่คือสัญญาณเตือนในข้อแรกที่บ่งบอกถึงอาการติดเหล้า เพราะเข้าใจกันไปเองว่าตนเองนั้นคอแข็งขึ้น ดื่มได้มากขึ้นจึงยิ่งเป็นการซ้ำเติมร่างกายด้วยการเพิ่มแอลกอฮอล์ในร่างกายมากขึ้น

เมื่อไม่ได้ดื่มจะมีอาการทางร่างกายปรากฏ

เช่น มือสั่น เหงื่อแตก คลื่นไส้ นอนไม่หลับ เป็นต้น ซึ่งบางครั้งอาจจะแสดงอาการทางร่างกายออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือแสดงอาการออกมาพร้อมกันทั้งหมด นั่นแสดงว่าคุณต้องสำรวจตัวเองแล้วว่าเข้าข่ายอาการติดเหล้าหรือไม่

ไม่สามารถควบคุมการดื่มได้

เรียกได้ว่าเป็นการดื่มสุราอย่างพร่ำเพื่อ กลายเป็นขาประจำร้านเหล้าหรือดื่มเป็นประจำทุกวัน และในการดื่มแต่ละครั้งก็ไม่สามารถจำกัดปริมาณได้ อีกทั้งแม้ในคราวที่ร่างกายเจ็บป่วยก็ยังคงหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากไม่ได้ดื่มก็จะแสดงอาการดังข้อ 2 ที่กล่าวมาแล้ว

หมกมุ่นกับการดื่มหรือหาสุรามาดื่ม

ยิ่งดื่มมากเท่าไหร่ ก็เหมือนยิ่งติดใจมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากในหนึ่งวันของคุณหมดเวลาไปกับการหาร้านนั่งดื่ม หรือ มองหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ตลอดเวลาแล้วล่ะก็ถือได้ว่าเข้าข่ายอาการติดเหล้าอย่างจริงจัง

ต้องการจะเลิกดื่มหลายครั้ง

แต่ทำไม่สำเร็จ ด้วยเหตุที่ไม่สามารถหักห้ามใจได้ ยังมีความต้องการที่จะดื่มแอลกอฮอล์อยู่นั่นเอง ทางที่ดีคือหากิจกรรมอื่นทำเพื่อเบี่ยงเบนความต้องที่จะดื่มแอลกอฮอล์

เสียการเสียงานจากการเป็นโรคติดเหล้า

ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบทางร่างกยเท่านั้นแต่ยังส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน ทรัพย์สินเงินทอง ชีวิตความเป็นอยู่และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก่อให้เกิดภาวะความเครียด คามวิตกกังวล นำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพร่างกายและจิตนั่นเอง

          ดังนั้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงควรดื่มในปริมาณที่ร่างกายของแต่ละคนจะรับได้ และไม่บ่อยครั้งจนเกินไป หรือหากจำเป็นต้องดื่มบ่อยครั้งก็ควรเลี่ยงที่จะดื่มในปริมาณที่มากจนส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ พร้อมทั้งหากิจกรรมอื่นที่ช่วยเยียวยาฟื้นฟูร่างกายและจิตใจจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์